ระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยปกป้องร่างกายของเราจากอันตราย ทั้งจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา สารพิษ หรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย
ซึ่งหากภูมิคุ้มกันอ่อนแอจากการทำงานที่ผิดปกติ หรือการมีพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ร่างกายจะเกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย ไม่สามารถต่อสู้กับการติดเชื้อภายนอก หรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในร่างกายได้
โดยหนึ่งตัวช่วยที่จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันของเรามีมากขึ้นก็คือ การได้รับวิตามินต่างๆ อย่างครบถ้วยและเพียงพอ ซึ่งสามารถได้หลากหลายวิธี
ตัวช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
1. การรับประทานอาหาร การเลือกอาหารที่ดี มีวิตามินต่างๆ สูง ย่อมมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายได้ เช่น
วิตามินซี มีมากในผักและผลไม้สดต่างๆ ผักที่พบวิตามินมากได้แก่ ดอกกระหล่ำ ขึ้นฉ่าย ผักโขม ผักคะน้า ผักชี มะรุม และผลไม้ที่มีวิตามินซีมากได้แก่ เชอร์รี่ ส้มต่างๆ มะนาว ฝรั่ง มะขามป้อม มะละกอ ส้มโอ และสตรอว์เบอร์รี่
วิตามินเอ ช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยแหล่งอาหารที่ดีที่ร่างกายสามารถดูดซึมและใช้ประโยชน์จากวิตามินเอได้สูง เช่น เครื่องในสัตว์ ไข่แดง นม ผลิตภัณฑ์จากนม และแหล่งอาหารรองลงมาจะได้จากพืช เช่นผักใบเขียวเข้ม ผักและผลไม้สีเหลืองและส้ม เช่น ตำลึง ผักบุ้ง แครอท ฟักทอง มันเทศสีเหลือง และมะละกอสุก
วิตามินดี มีหน้าที่สำคัญในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย มีการค้นพบ Vitamin D Receptor หรือตัวรับที่จับกับวิตามินดีบน T Cell และ B Cell ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาคุกคามร่างกาย เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เซลล์มะเร็ง ปัจจุบันมีงานวิจัยมากมายที่สนับสนุนการให้วิตามินดีเสริมเพื่อช่วยต้านโรคมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก แม้ว่าปกติแล้วร่างกายจะสามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้เองในชั้นผิวหนังผ่านการกระตุ้นจากรังสียูวีบี และการได้รับอาหารจำพวกปลาที่มีไขมัน Omega - 3 เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาทู ปลาซาร์ดีน แต่มักจะไม่เพียงพอ
สังกะสี มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตและแบ่งเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน รวมทั้งควบคุมการทำงานของเอนไซม์ที่เป็นกลไกหลักในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งแหล่งอาหารที่ดีเมื่อพิจารณาจากปริมาณและการดูดซึมเพื่อนำไปใช้ประโยชน์แล้วจะมีอาหารจำพวก เนื้อสัตว์และเครื่องใน หอยนางรม สัตว์ปีกและปลา และที่รองลงมาได้แก่ ไข่ นม
การรับประทานวิตามินเสริมแบบเม็ด เป็นการได้รับวิตามินเข้าสู่ร่างกายได้จำนวนมากในครั้งเดียว เพราะเป็นการสกัดเอาวิตามินแบบเข้มข้นมาอัดรวมกันไว้ในรูปแบบวิตามินเม็ด ซึ่งการเลือกรับวิตามินแบบเม็ดต้องเลือกที่เหมาะสมกับร่างกายของเรา
2. การดริปวิตามินเข้าสู่ร่างกาย เป็นการฉีดวิตามินเข้าสู่ร่างกายโดยผ่านทางเส้นเลือด ทำให้ได้รับวิตามินที่เข้มข้น จึงเห็นผลลัพธ์ที่เร็วกว่าการรับประทานวิตามินเม็ด การให้วิตามินทางเส้นเลือดสามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ต้านอนุมูลอิสระที่เข้ามาทำร้ายผิวและอวัยวะต่างๆ เป็นการบำรุงรักษาทั้งอวัยวะภายในและผิวพรรณภายนอก กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว ปรับสมดุลให้ภูมิคุ้มกันของร่ายกาย เหมาะกับคนทั่วไปที่อยากเสริมภูมิคุ้มกันให้ตนเองและผู้ที่อ่อนเพลีย ป่วยบ่อย หรือป่วยง่ายให้แข็งแรงขึ้น
เสริมและเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย ด้วยวิตามินที่จำเป็น อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/