หมอประจำบ้าน: กลากน้ำนม Pityriasis Alba

[siritidaphon]

หมอประจำบ้าน: กลากน้ำนม Pityriasis Alba

"กลากน้ำนม" หรือในทางการแพทย์เรียกว่า Pityriasis Alba เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่พบบ่อย โดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่น มีลักษณะเป็นผื่นดวงสีขาวหรือซีดกว่าผิวปกติ และมักมีขุยละเอียดเล็กน้อย

ลักษณะของโรคกลากน้ำนม:
ลักษณะผื่น: เป็นดวงสีขาวหรือซีดจางกว่าผิวหนังปกติ มักมีรูปร่างกลม วงรี หรือรูปร่างไม่แน่นอน อาจมีขุยละเอียด ๆ บนผิวผื่น
ขนาด: มีได้ตั้งแต่ขนาดเล็กไม่กี่มิลลิเมตรไปจนถึงหลายเซนติเมตร
ตำแหน่งที่พบ: พบบ่อยบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะแก้ม คาง หน้าผาก และอาจพบบริเวณลำคอ ลำตัว แขน ขา ได้เช่นกัน
อาการ: โดยทั่วไปไม่คัน หรืออาจคันเล็กน้อยในบางราย
ความชัดเจน: ผื่นจะเห็นชัดเจนขึ้นในคนผิวคล้ำ หรือเมื่อผิวส่วนอื่นโดนแดดจนคล้ำขึ้น (เนื่องจากบริเวณที่เป็นกลากน้ำนมจะไม่สร้างเม็ดสีเท่าปกติ)
สาเหตุของโรคกลากน้ำนม:
สาเหตุที่แท้จริงของ Pityriasis Alba ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย ดังนี้:

ภาวะผื่นผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ (Atopic Dermatitis): กลากน้ำนมมักถูกพิจารณาว่าเป็นอาการเล็กน้อยของผื่นผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ หรือเกิดร่วมกับภาวะผิวแห้ง
การสัมผัสแสงแดด: การสัมผัสแสงแดดอาจทำให้ผื่นเห็นชัดขึ้น เนื่องจากผิวหนังส่วนอื่นจะสร้างเม็ดสีและคล้ำลง ในขณะที่บริเวณที่เป็นกลากน้ำนมสร้างเม็ดสีได้น้อยกว่า
ผิวแห้ง: การที่ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้นอาจเป็นปัจจัยหนึ่ง
สิ่งกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม: เช่น ลม หรือความเย็น
การอักเสบเล็กน้อยของผิวหนัง: อาจมีการอักเสบเกิดขึ้นก่อนหน้านี้เล็กน้อย แล้วทิ้งรอยขาวไว้

โรคกลากน้ำนมติดต่อหรือไม่?
โรคกลากน้ำนม (Pityriasis Alba) ไม่ใช่โรคติดต่อ และไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อรา แบคทีเรีย หรือไวรัสเหมือนโรคกลากเกลื้อนทั่วไปที่มักเข้าใจผิดกัน

ใครบ้างที่พบบ่อย?
พบบ่อยที่สุดในเด็กวัย 3-14 ปี (จึงเป็นที่มาของชื่อ "กลากน้ำนม")
สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย แต่ในผู้ใหญ่จะพบน้อยกว่า

การรักษาและดูแล:
โดยทั่วไปแล้ว กลากน้ำนมเป็นภาวะที่ไม่รุนแรงและมักจะ หายได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องรักษา แต่ใช้เวลาหลายเดือนไปจนถึงหลายปี เม็ดสีผิวจะกลับมาเป็นปกติได้เอง อย่างไรก็ตาม การดูแลเบื้องต้นและบางครั้งแพทย์อาจแนะนำการรักษาเพื่อช่วยให้อาการดีขึ้นและลดความกังวล:

ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว: ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ ครีมบำรุงผิว หรือปิโตรเลียมเจลลี่เป็นประจำ โดยเฉพาะหลังอาบน้ำ เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดอาการแห้งและขุย


หลีกเลี่ยงแสงแดด:
ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ในบริเวณที่อาจโดนแดด เพื่อไม่ให้ผิวส่วนอื่นคล้ำลงมากนัก ซึ่งจะทำให้ผื่นกลากน้ำนมดูเด่นขึ้น
หลีกเลี่ยงการตากแดดจัด ๆ หรือในเวลาที่แดดแรง
ใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน: ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของสบู่หรือน้ำหอมที่อาจระคายเคืองผิว
หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นจัดหรืออาบน้ำบ่อยเกินไป: เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น
ยา: ในบางกรณีที่ผื่นมีอาการอักเสบแดงหรือคัน แพทย์อาจพิจารณาให้ใช้ยาทาสเตียรอยด์ชนิดอ่อน ๆ ในระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อลดการอักเสบ


ข้อควรระวัง:
ไม่ควรวินิจฉัยโรคด้วยตนเองและซื้อยามาทาเอง เพราะผื่นด่างขาวอาจเกิดจากโรคผิวหนังอื่น ๆ ได้ เช่น เกลื้อน (จากเชื้อรา), ผื่นแพ้สัมผัส, หรือโรคด่างขาว (Vitiligo) ซึ่งการรักษาจะแตกต่างกัน
หากกังวลหรือไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องและการดูแลที่เหมาะสม
สรุปคือ โรคกลากน้ำนมเป็นภาวะที่ไม่อันตราย ไม่ติดต่อ และมักหายได้เองเมื่อเวลาผ่านไป การดูแลผิวให้ชุ่มชื้นและหลีกเลี่ยงแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลเบื้องต้น